การเติบโตของเวียดนามส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยอย่างไร?
ในบรรดาประเทศที่มีเศรษฐกิจร้อนแรงอยู่ในขณะนี้ คงต้องมี เวียดนาม เป็นหนึ่งในประเทศเหล่านั้น ด้วยอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงถึงกว่าร้อยละ 8 ทุกประเทศจึงหันมาจับตามองเวียดนาม รวมทั้งเป็นที่จับตาของประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงอย่างไทยด้วย
คนไทยหลายคนมองการเติบโตของเวียดนามอย่างวิตกว่า เวียดนามจะกลายเป็นคู่แข่งและจะแซงหน้าประเทศไทยในอนาคต บางคนอาจจะคิดไปถึงขั้นที่ว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามแสดงถึงการถอยหลังลงคลองของไทย แต่คำถามที่น่าพิจารณาคือ ความวิตกดังกล่าวเป็นความจริงหรือไม่ และความจริงแล้วการเติบโตของเวียดนามส่งผลกระทบต่อการเศรษฐกิจไทยโดยเฉพาะในแง่ของการเติบโตอย่างไรบ้าง
บทความนี้พยายามหาคำตอบให้แก่คำถามดังกล่าว ผมจึงพยายามใช้ข้อมูลตัวเลขต่าง ๆ ในการวิเคราะห์ เพื่อให้ได้คำตอบที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ ทั้งนี้ผมขอแบ่งผลกระทบของการเติบโตของเวียดนามที่มีต่อการเติบโตของไทยออกเป็นสองนัยคือผลโดยตรงและผลโดยอ้อม
ผลกระทบโดยตรงของการเติบโตของเวียดนามต่อไทยเป็นผลจากการเป็นคู่ค้าระหว่างกัน การเติบโตของประเทศหนึ่งมีผลต่ออีกประเทศหนึ่งโดยผ่านช่องทางของการค้าระหว่างประเทศ โดยปกติหากประเทศหนึ่งมีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูงจะทำให้ประชาชนในประเทศนั้นมีระดับรายได้มากขึ้น ซึ่งตามมาด้วยการนำเข้าสินค้าและบริการเพื่อบริโภคมากขึ้น และในอีกแง่หนึ่งการที่เศรษฐกิจขยายตัวเกิดจากการขยายกำลังการผลิตของอุตสาหกรรมต่าง ๆ ซึ่งจำเป็นต้องนำเข้าวัตถุดิบหรือเครื่องจักรเพื่อเป็นสินค้าทุนในการผลิต
ด้วยเหตุผลนี้ เมื่อประเทศหนึ่งมีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงน่าจะทำให้ประเทศอื่นที่เป็นประเทศคู่ค้าส่งออกได้มากขึ้น จึงมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจมากขึ้นตามไปด้วยในทางทฤษฎี
9 ความคิดเห็น:
ประเทศเวียตนามถือว่าประเทศหนึ่งที่เจริญพอสมควร ดังนั้นถ้าประเทศเวียตนามเติบโตขึ้นอีก ก็จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของไทยในด้านของรายได้ของประเทศเพิ่มสูงขึ้น และในด้าการนำเข้าสินค้า ดังนั้นประเทศไทยจะต้องมีพัฒนาแผนเศรษฐกิจของประเทศให้ดีขึ้น มิฉะนั้นประเทศไทยจะเกิดผลกระทบมากมายตามมา
ปัจจุบันนี้..เวียดนามก็มีการเจริญที่เติบโตมาขึ้นกว่าแต่ก่อนทั้งประเทศทาด้านการท่องเที่ยว อีกหน่อยธุรกิจก็น่าจะเข้ามาเทีบยเท่าหรือจะก้าวหน้าไปกว่าไทย..ก็อาจจะเปนได้...
ถ้ารัฐบาลไทยยังเป็นแบบนี้อยุ่..อีก
ตอนนี้เวียดนามถือเป็นคู่แข้งที่น่ากลัวของไทยอย่างมากในด้านอุตสาหกรรมการผลิต ไม่แน่ว่าอนาคตอุตสาหกรรมการผลิตของบริษัทใหญ่ๆต่างชาติในไทยจะย้ายฐานการผลิตไปเวียดนามแน่เลย
ตอนนี้ประเทศเพื่อนบ้านของไทยเราที่ชื่อว่า
"เวียดนาม" น่าจับตามองทุกความเคลื่อนไหวมาก
เพราะด้วยการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและเป็นไปทีละ
Step ทำให้เวียดนามไม่รีรอที่จะขึ้นแทนตำแหน่ง
ของประเทศไทย อย่างเช่น ข้าว เป็นต้น
เศรษฐกิจเวียดนามโตเร็วมากจนน่ากลัวจริงๆ
สักวันเวียดนามต้องนำหน้าไทยแน่ๆๆ
คิดว่าเศรษฐกิจของแต่ละประเทศนั้น ขั้นหนึ่งก็ขึ้นอยู่กับการบริหารงานประเทศของแต่ละประเทศนั้น ว่ามีการบริหารงานได้ดีแค่ไหน แต่ถึงแม้ว่าบางประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจน้อง แต่นั่นก็ไม่ได้หมายถึงว่ารัฐบาลเขาจะด้วยฝีมือในการพัฒนา เพราะมีสภาพแวดล้อมต่างๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศที่มีผลกระทบต่อ การพัฒนาประเทศเป็นสำคัญ
ทางที่ดีเราควรที่จะพัฒนา จิตใจ และความสามัคคีที่มีอยู่ในประเทศให้ดีขึ้นจะดีกว่า ดีกว่ามุ่งไปที่การเติบโตของประเทศ แน่นอนประเทศที่จะเติบโตได้ ก็ขึ้นอยู่กับ หน้าที่ที่รับผิดชอบ ของแต่ละคน แต่ละหน่วยงานว่า ให้ความมุ่งมั่น และตั้งใจทำงาน,แก้ไขปัญหาได้มากน้อยแค่ไหน ก็ไม่พ้น จิตใจ และจิตสำนึกของคนอยู่ดี ประเทศที่ไม่เจริญ นั่นไม่ได้หมายความว่า เขาจะไม่มีความสุข ถ้าเขามีจิตใจเอื้อเฟื้อ แก่กันและกัน
ถึงแม้ว่าประเทศเวียดนามยังด้อยในเรื่องของเทคโนโลยีมากกว่าประเทศไทยเราแต่กลับเป็นประเทศที่เป็นที่สนใจของชาวต่างชาติที่ต้องการมาลงทุนซึ่งต่างกับไทยในตอนนี้นักลงทุนไม่น้อยที่ต้องยกเลิกการลงทุนเพราะปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นโดยที่รัฐบาลยังไม่มีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาทั้งการเมือง และด้านเศรษฐกิจจึงทำให้ประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนามมีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูงขึ้นเรื่อยๆและในอนาคตอาจเป็นคู่แข่งที่สำคัญของไทย ดังนั้น ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนควรหันมาร่วมมือกันแก้ปัญหาเศรฐกิจในตอนนี้ ก่อนที่มันจะสาย
เวียดนามในตอนนี้เป็นประเทศที่ต่างชาติสนใจเข้าไปลงทุน แต่ถ้าชาวเวียดนามมีการใช้จ่ายมากขึ้นด้วยทำให้มีการนำเข้ามากขึ้น แต่ก็ไม่ได้ส่งผลต่อการนำเข้าสินค้าไทยมากนัก แต่ถ้าไทยเราพยายามที่จะดึงดูดชาวต่างชาติให้มาลงทุนในประเทศน่าจะทำให้ประเทศของเราเจริญเติบโตมากกว่าที่เป็นอยู่ก็ได้
แสดงความคิดเห็น